เกษตรทฤษฎีใหม่
New Theory Agriculture คือระบบเกษตรที่มีกิจกรรมการผลิตหลายชนิด โดยการแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วนคือ
1.ขุดสระกักเก็บน้ำ 30%
เพื่อให้มีน้ำใช้สม่ำเสมอตลอดปี โดยเก็บกักน้ำฝนในฤดูฝนและใช้เสริมการปลูกพืชในฤดูแล้ง หรือระยะฝนทิ้งช่วง ตลอดจนการเลี้ยงสัตว์และพืชน้ำต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด โสน ฯลฯ
2.ปลูกข้าว 30%
ปลูกข้าวในฤดูฝน เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวันสำหรับครัวเรือนให้เพียงพอตลอดปี โดยไม่ต้องซื้อในราคาแพง เป็นการลดค่าใช้ง่าย และสามารถพึ่งตนเองได้
3.ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น 30%
ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร่ พืชผัก พืชสมุนไพร ฯลฯ อย่างผสมผสานกัน และหลากหลายในพื้นที่เดียวกันเพื่อใช้เป็นอาหารประจำวัน หากเหลือจากการบริโภคก็นำไปขายได้
4.สร้างสิ่งปลูกสร้างและอื่นๆ
ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ ถนนหนทางคันดิน โรงเรือน แลสิ่งก่อสร้างอื่นๆ รวมทั้งคอกเลี้ยงสัตว์เรือนเพาะชำ ฉางเก็บผลิตผลการเกษตร ฯลฯ
ประโยชน์ของการทำเกษตรในรูปแบบเกษตรทฤษฎีใหม่
1.มีความมั่นคงทางด้านอาหาร พอยู่พอกิน เลี้ยงตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ "เศรษฐกิจพอเพียง"
2.ลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง ในหน้าแล้งก็สามารถนำน้ำที่กักเก็บไว้ในสระมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยได้ โดยไม่ต้องอาศัยน้ำจากชลประทาน
3.ในปีที่ฝนตกตามฤดูกาล สามารถเก็บผลผลิตที่เหลือจากการบริโภคนำไปขายสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
4.ที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า เป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบพึ่งตนเองโดยผสมผสานการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์และประมงไว้ด้วยกัน ช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะเน้นความพออยู่พอกินไม่เป็นหนี้สิน